วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559

๓.คาถาพระมัญชุศรีโพธิสัตย์

วันพุธ ที่ ๑๕ กรกฎาคม พศ.๒๕๕๘
 แรม ๑๕ ค่ำเดือน ๘  เป็นวันพระใหญ่


           สองวันแล้วที่จิตประวัติไปถึงองค์พระมัญชุศรีโพธิสัตย์
และสองวันก่อนนั่งภาวนาตอนเช้า ได้นิมิตเห็นสัตว์ตัวหนึ่งคล้ายสิงห์
โต แต่รูปร่างเพรียวลมกว่าสีออกทางปีกแมลงทับ ไม่ใช่เสือปลา 
กำลังตะกุยตะกายโคนรากต้นไม้อยู่ตรงหน้า ดินถูกขาหน้าทั้งสอง
ตะกุยจนปลิวว่อน พร้อมกับมีเสียงบอกมาในจิตลึกๆ ว่า "ใช้ปัญญาขุดรากถอนโคน"
  

          ด้วยนิมิตนี้กระมังทำให้คิดไปถึงพระองค์ท่าน

         องค์พระมัญชุศรีโพธิสัตย์นั้นเป็นเลิศทาง....มหาปัญญา....

พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ (मञ्जुश्री) หรือ มัญชุศิริมหาสัตวะ” 

ทรงเป็น ๑ ใน ๔ อัครมหาโพธิสัตว์แห่งพระพุทธศาสนามหายาน 

อันประกอบไปด้วย พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ (มหากรุณา)

พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ (มหาปัญญา), พระกษิติครรภมหา

โพธิสัตว์ (มหาปณิธาน) และพระสมันตภัทรมหาโพธิสัตว์ (มหา

กิริยา) ทั้งยังเป็น ๑ ใน ๘ อัครมหาโพธิสัตว์แห่งพระพุทธศาสนาวัชร

ยาน ทรงเป็น ๑ ใน ๓ มหาบุรุษแห่ง พุทธาวตังสกโลกธาตุ และ

ยังเป็นอัครสาวกข้างซ้ายฝ่ายพระโพธิสัตว์แห่งพระศากยกมุนีพุทธ

เจ้าอีกด้วย

         คำกล่าวของท่านเป็นธรรมขั้นสูงที่ประทานแด่พระอาจารย์

อู๋เจอะว่า "แค่จิตบริสุทธิ์คือโพธิ จากเม็ดทรายสรรค์สร้างเป็น

เจดีย์ แท้จริงแล้วเจดีย์คือธุลี เพียงจิตสะอาดคือตรัสรู้

       ในประวัติของหลวงจีนอู๋เจอะ ท่านได้พบกับเด็กน้อยที่ดูแลพระ

มัญชุศรีโพธิสัตย์ เด็กน้อยได้ให้โอวาทธรรมแก่หลวงจีนก่อนกลับว่า

    ใบหน้าที่ไร้โทสะคือการบูชาที่แท้จริง คำพูดที่ไร้โทสะคือ

ความหอมที่แท้จริง จิตที่ไร้โทสะถึงจะเป็นทรัพย์สมบัติที่แท้จริง

 บริสุทธิ์สะอาดคือความปกติที่แท้จริง "

     คาถามหาธารณีแห่งพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์นั้น มีมากมาย 

อาทิเช่น พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์เอกอักขรคาถา”, “พระมัญชุศรี

มหาโพธิสัตว์ปัญจอักขรคาถา”, “พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ฉอักขร

คาถา”, “พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์อัฏฐอักขรคาถา๑ ในนั้น คาถาที่มี

ผู้รู้จักมากที่สุดคือ...

       “พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ปัญจอักขรคาถาหรือที่มีอีกชื่อว่า 

พระปัญจสิงขรมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ปัญจอักขรคาถาซึ่งคาถามีดังนี้

อม  อรา  ปัญจะ  นะ  ติ

       คาถานี้หมั่นสวดสาธยาย จักช่วยให้มีปัญญาแตกฉาน สามารถ

แทงตลอดในพระสัทธรรม พ้นจากความไม่รู้และข้อสงสัยในอรรถและ

พยัญชนะแห่งพระสัทธรรมทั้งปวง
    
      เมื่อจะสาธยายนั้น ให้รำลึกถึงพระมหากรุณาแห่งพระปัญจสิงขร

มัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ จากนั้นตั้งปณิธาน จะสลายสิ้นซึ่งโมหะ

อวิชชา และวิจิกิจฉาแห่งสรรพชีวิตทั้งปวง
  
       เมื่อเวลาสาธยายพระคาถา ให้จินตภาพว่าพระปัญจสิงขรมัญชุ

ศรีมหาโพธิสัตว์ทรงประทับอยู่เบื้องนภากาศ ทอแสงรัศมี สาดส่อง

สรรพชีวิต พระขรรค์วัชระ ประหารทำลายแล้วซึ่งโมหะ, อวิชชา และ

วิจิกิจฉาแห่งสรรพชีวิตทั้งปวง
       
       คืนนี้ข้าพเจ้าฤาษีเอก อมตะ ขอกราบอาราธนาพระปัญญาบารมี

แห่งพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ โปรดเสด็จลงมาประทับอยู่เหนือเศียร

เกล้าปกกระหม่อมของข้าพเจ้า เพื่อประทานมหาสติ มหาปัญญา 

ดั่งสายฟ้า ให้ข้าพเจ้าได้รู้แจ้งแทงตลอดแห่งการสลายสิ้นซึ่งอวิชา

ตัณหา อุปาทาน วิจิกิจฉาแห่งสรรพชีวิตทั้งปวง ทั้งโลภะ โทสะ 

โมหะ ออกจากจิตใจให้ขาวสะอาดรอบเป็นประกายรัศมีเจิดจ้าดุจ

พระจันทร์วันเพ็ญขึ้น ๗ ดวงพร้อมกัน ด้วยมหาปัญจะอักขระคาถาทั้ง

ห้าแห่งองค์พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตย์เจ้าด้วยเถิด....


    หลังจากตั้งจิตอธิษฐานได้พนมมือกราบไหว้

พระพุทธคุณ  ธรรมคุณ สังฆคุณ จากนั้นได้หลับตา

สาธยาย  พระปัญจสิงขรมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ปัญจ

อักขรคาถา  อม  อรา  ปัญจะ  นะ  ติ”  ไปเรื่อยๆ 

โดยจินตภาพว่าพระองค์เสด็จมาประทับลอยอยู่บน

กระหม่อม  ประมาณสัก ๑๐ นาที จิตสงบลงทีละ

น้อย  เกิดภาพนิมิตเห็นไม้แก่นสีเข้มเหมือนมะขาม

ฟ้าผ่าหรือไม้พยุง สี่เหลี่ยมขนาดเท่าประมาณนิ้วชี้

ยาวประมาณสองคืบ  มีตะไบกำลังขัดถูเศษไม้

ถลอกออกไปบ้างแล้ว  พร้อมกับมีคำกล่าวว่า  

    "ขัดกิเลสออกไปทีละเล็กละน้อย"

    หลังจากนั้นได้สาธยายมนตรานี้ต่อไป จิตสงบลึก

ลงไปอีก คราวนี้เห็นภาพผู้ชายหลายคนนุ่งชุดสีเข้ม

เลือดหมูในมือถือสมุดแฟ้มหนายืนรอบตัวยิ้มให้มา

อย่างเมตตา  ภาพตัวเองคว่ำหน้าเอนทาบลงบน

กองผ้าห่มเหยียดขายาวออกไป  ในขณะนั้นจิตได้

สาธยาย อม  อรา  ปัญจะ  นะ  ติ  ต่อไปเรื่อยๆ  

กลับปรากฎเห็นเป็นรอย ๓  รอยในอากาศถากลงไป

บนท่อนขา  เหมือนคนเอาคราด ๓ ซี่คราดลงตลอด

เวลา  ครั้นกลับมานั่งสงบภาวนาอีก รอย๓ รอยนั้น

คราวนี้ยิ่งคราดจากบนศรีษะลงมาตลอดลำตัวที่นั่ง

อยู่  ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้น  จิตอีกดวงหนึ่งตอบ

ขึ้นมาว่า คราดกิเลสโลภะ  โทสะ โมหะ ออกจากจิต

จิตยิ่งกระหน่ำซ้ำสาธยายไปเรื่อยมากยิ่งขึ้น  ถี่ยิ่ง

ขึ้น  ภาพรอยคราดลำตัว ๓ รอยในอากาศ ก็พาด

ผ่านลำตัวมากยิ่งขึ้นไปเท่านั้น

     เปรียบเหมือนเอาหวี ๓ ซี่ ไปสางเส้นด้ายซ้ำไป

มาจนดึกหลังหกทุ่มเที่ยวคืนไปแล้ว จึงได้ออกจาก

กรรมฐาน  พักผ่อน  ก่อนนอนก็ยังสาธยายพระ

คาถา อม  อรา  ปัญจะ  นะ  ติ  ต่อไปอีกจนหลับไป

ด้วยอาการจิตสงบ                                            

     นิมิตในจิตที่เกิดจากการสาธยายมนตรา...

พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตย์ก็เป็นแบบนี้

    ตอนเช้ามืดได้แผ่เมตตาให้ผู้เจ็บไข้ได้ป่วยสรรพ

สัตว์ทั้งหลายเจ้ากรรมนายเวร ญาติพี่น้องเพื่อน

สนิทมิตรสหาย  เทพเทวดา นาค ครุฑ ยักษ์ ฤษี 

กุมารเทพ ที่รักษาข้าพเจ้า  ตลอดจนท่านผู้อ่าน

ทุกท่านจงได้รับกุศลผลบุญนี้  มีความสุขกายใจ 

 สมปรารถนาตลอดไป

    ขอผู้อ่านทุกท่าน  จงได้อัญเชิญพระปัญจสิงขรมัญชุศรีมหา

โพธิสัตว์ปัญจอักขรคาถา อม  อรา  ปัญจะ  นะ  ติ   ไปใช้สาธยายให้เกิดประโยชน์สุขต่อตนเอง ครอบครัว ประเทศชาติสืบไป

ฤาษีเอก อมตะ
วันพุธ ที่ ๑๕ กรกฎาคม พศ.๒๕๕๘ 

ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ เวลา ๒๑.๒๙ น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น