๖.พระคาถาเจริญธรรมมรรค ๘

วันที่ ๑๓ กรกฎาคม พศ.๒๕๕๘

วันนี้เป็นวันมหาอัศจรรย์
วันพุธ ที่ ๘ เดือนกรกฎาคม พศ.๒๕๕๘
ในรอบหลาย 

วันที่ ๘ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะแม ๘ 

พ.ศ ๒๕๕๘ ลงท้าย ๘ 

  

จ.ศ ๑๓๗๗ รวม = ๘ 

  

ค.ศ ๒๐๑๕ รวม = ๘ 

  

เกี่ยวข้องกับมรรค  ๘ 

มรรค (ภาษาสันสกฤต :มรฺค; ภาษาบาลี : มคฺค) คือ หนทางถึงความดับ

ทุกข์ เป็นส่วนหนึ่งของอริยสัจ (เรียกว่า มัคคสัจจ์ หรือ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ) 

หรือการลงมือปฏิบัติเพื่อให้พ้นจากทุกข์ และนับเป็นหลักธรรมสำคัญอย่างหนึ่งในพระพุทธศาสนา  

ประกอบด้วยกรอบการปฏิบัติ 8 ประการด้วยกัน เรียกว่า "มรรคมีองค์แปด" หรือ "มรรคแปด" (อัฏฐังคิกมรรค)  มรรค หมายถึง  อริยมรรค  คือ = มัชฌิมาปฏิปทา

 = มรรคแปด = ทางดำเนินชีวิตอันประเสริฐ  = ทางสายกลาง 

 ในที่นี้หมายถึง   ทางเดินของจิต  

 โดยมีรายละเอียดดังนี้ 

สัมมาทิฏฐิ คือ ความเห็นที่ถูกต้อง หมายถึง ความรู้-ปัญญา

 หรือมุมมอง ที่ถูกต้องตรงกับความจริง ตามคำสอนของ 

พระพุทธเจ้า คือการรู้แจ้งในอริยสัจ 4 

สัมมาสังกัปปะ คือ ความคิดที่ถูกต้อง หมายถึง ความคิดที่ต้อง

ละเว้นจากความพอใจ ความพยาบาทและการเบียดเบียน 

สัมมาวาจา คือ เจรจาที่ถูกต้องหมายถึง การพูดที่ต้องละเว้นจาก

การพูดเท็จ หยาบคาย ส่อเสียดและเพ้อเจ้อ 

สัมมากัมมันตะ คือ การปฏิบัติที่ถูกต้อง 

หมายถึง การกระทำที่ต้องละเว้นจากการฆ่าสัตว์

 ลักทรัพย์และประพฤติผิดในกาม 

สัมมาอาชีวะ คือ การหาเลี้ยงชีพที่ถูกต้อง

หมายถึง การทำมาหากินอย่างซื่อสัตย์สุจริต
     ไม่มีการทุจริตและเอาเปรียบผู้อื่น 

สัมมาวายามะ คือ ความเพียรที่ถูกต้อง 

หมายถึง ความอุตสาหะหรือความพยายาม
        ที่อยู่ในวิถีทางที่ดีงาม คือการละบาปอกุศลทางใจ 
        และเจริญกุศลให้ยิ่งๆขึ้นไป 

สัมมาสติ คือ การมีสติที่ถูกต้อง  

หมายถึง การระลึกรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา 
      โดยกำจัดความฟุ้งซ่าน รำคาญ หดหู่ ง่วงซึม สงสัย 
       และลังเล คือการพิจารณา กายในกาย เวทนาในเวทนา 
      จิตในจิต ธรรมในธรรม เช่นการเจริญอานาปานสติสมาธิ 
       มีสติรู้ลมหายใจ 

สัมมาสมาธิ คือ การมีสมาธิที่ถูกต้อง  

หมายถึง การฝึกกายและอารมณ์ให้สงบ
       โดยกำจัดควาคิด,ความจำและอารมณ์ออกไปชั่วขณะหนึ่ง
     คือการเจริญฌานทั้งสี่ 

        สรุปคือ   

        สัมมา  แปลว่า  ชอบ  หรือ  ดี  หรือ ถูกต้อง 

   ทิฏฐิ คือ ความเห็น       (เข้าใจ) 

    สังกัปปะ คือ ความคิด   (คิด) 

    วาจา คือ เจรจา              (พูด) 

   กัมมันตะ คือ การปฏิบัติ      (ทำ) 

   อาชีวะ คือ การหาเลี้ยงชีพ  (อาชีพ ) 

   วายามะ คือ ความเพียร       (พยายาม) 

   สติ คือ   ระลึกได้           (ระลึก) 

  สมาธิ คือ  จิตสงบนิ่ง  (ตั้งมั่น)

       มรรคทั้ง ๗  ข้อเบื้องต้น  ต้องอาศัย มรรค ข้อสุดท้าย  คือ  สมาธิ   คือ ต้องมานั่งสมาธิ  ยืนสมาธิ  เดินสมาธิ  นอนสมาธิ  พูดง่ายๆ ว่า 

 ถ้าไม่ทำสมาธิ  อย่ามาหาทางสายกลาง คือ มรรค

วันนี้เป็นวันมหาอัศจรรย์  วันที่ ๘ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะแม ๘  พ.ศ ๒๕๕๘ ลงท้าย ๘  จ.ศ ๑๓๗๗ รวม=๘  ค.ศ ๒๐๑๕ รวม=๘  ดังนั้นวันนี้      จึงเป็นวันที่.....ควรมีพระคาถาแห่งความเป็นอริยหลุดพ้น ของสภาวะจิต  คือ  การหลุดพ้นทุกข์นั่นเอง จึงอยากขอบอก คาถาสำหรับการพ้นทุกข์จากมรรค  ๘   โดยเอาคำแรกหรือหัวใจของแต่ละมรรคมาตั้งเป็นพระคาถา  ว่า สัม  ทิฏ   สัง  วา   กัม     อา  วา  สะ  สะ นะโมพุทธายะ      ขอกราบอาราธนาอำนาจบารมีแห่งพระพุทธเจ้าทุกพระองค์    พระอริยสงฆ์ในพระนิพพานทุกพระองค์ ขออธิษฐานจิตให้ทุกท่าน... .ที่เข้ามาอ่าน  มาศึกษา  มาคัดลอกพระคาถานี้ไปใช้  ตลอดทั้งมนุษย์ชาย  หญิงทั่วทั้งโลกนี้ ทุกประเทศ  ทุกภาษา  ทุกตัวตน  ทั้งเทวดา เทพ พรหม  ฤาษี  คนธรรธ์  นาค  ครุฑ  ฤาษี  ทั้ง ๑๖  ชั้นฟ้า  ๑๕  ชั้นดิน  ๑๔  ชั้นบาดาล  จงมีแต่ความสุข  ความเจริญ  ทั้งทางกาย และทางใจ  จิตผ่องใสปราศจากทุกข์   ทุกประการ  ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะเข้าพระนิพพาน ขอจงนำพระคาถานี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์หมั่นภาวนาให้พ้นทุกข์ทั้งปวง    ทุกข์ทางกาย  ทุกข์ทางใจ   โรค ภัย ไข้ เจ็บ  ทุกสิ่งทุกอันทุกประการ   จงมอดไหม้มลายหายสิ้นไปเถิด..... ฤาษีเอก  อมตะ  วันที่ ๘  เดือน ๘  กรกฎาคม   ปีมะแม ๘ พศ.๒๕๕๘ แรม ๘  ค่ำ